Google Analytics 4 มีฟีเจอร์อะไรที่เด่นๆ บ้าง?

Google Analytics เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เหล่านักการตลาดทุกคน ได้รับรู้ถึงข้อมูลเบื้องลึกของเว็บไซต์ แล้วสามารถขำข้อมูลเหล่านั้นไปวิเคราะห์ เพื่อนำมาใช้พัฒนากลยุทธ์การตลาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

Google Analytics คืออะไร?

Google Analytics เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถวัดผลลัพธ์ของการทำเว็บไซต์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเช็คจำนวนผู้ชมเว็บไซต์ว่ามีคนมาใช้งานกี่คนในแต่ละวัน คนที่เข้ามาเป็นใคร และเข้ามาทำอะไรบ้าง ช่วยให้เรารู้จักกับกลุ่มคนที่สนใจ หรือลูกค้ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราสามารถนำข้อมูลที่ได้จาก Dashboard ต่างๆ มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการทำการตลาด สร้างแคมเปญให้ตรงกับคนที่สนใจ ยิ่งโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และวางแผนเพื่อให้เราสื่อสารได้มีประสิทธิภาพทุกช่องทาง เวอร์ชั่นล่าสุดในปัจจุบันคือ Google Analytics 4 (GA4)

สิ่งที่มีเพิ่มมาใน Google Analytics 4 (GA4)

  1. Report snapshot

หน้าแรกที่ทุกคนจะพบเมื่อ Login เข้าใช้งาน เป็นหน้าที่บอกภาพรวมของรายงานต่างๆ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น จำนวนผู้ใช้งานในเว็บไซต์ บอกว่าผู้ใช้งานเข้ามาจากช่องทางไหนมากที่สุด หน้าไหนที่คนเข้าไปใช้งานมากที่สุด และถ้าเราต้องการดูข้อมูลที่ลึกมากกว่านี้ ก็สามารถคลิกปุ่ม View ที่ล่างการ์ดรายงานได้เลยง่ายๆ

  1. Realtime

รายงานที่แสดงจำนวน และพฤติกรรมต่างๆ ของผู้ใช้งานเว็บไซต์ในขณะนั้น เราสามารถรู้ได้ว่า ณ เวลานี้มีผู้ใช้งานเว็บไซต์อยู่กราคน เข้าใช้งานจากตำแหน่ง/สถานที่ไหน เข้ามาจากช่องทางไหน หน้าที่คนเข้าไปใช้งานมากที่สุด

สำหรับรายงานต่อไปนี้ GA4 ได้มีการจัดกลุ่มรายงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่

Life Cycle – เป็นส่วนที่บอกพฤติกรรมการใช้งานต่างๆ ของผู้ใช้งานเว็บไซต์

User – ส่วนที่บอกข้อมูลพื้นฐานของคนที่เข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของเรา

  1. Acquisition

เป็นรายงานที่จะช่วยให้เรารู้ว่า User เข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของเราจากช่องทางไหนบ้าง แต่ละช่องทางมีคนเข้ามาใช้งานมากเท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่าผลลัพธ์ที่เราทำการตลาดในแต่ละช่องทางนั้นเติบโตขึ้นมากแค่ไหน และทางไหนที่ตอบโจทย์ธุรกิจเรามากที่สุด

  1. Engagement

เป็นรายงานที่บอกภาพรวมเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของ User เช่น หน้าเพจไหนมีคนเข้าใช้งานมากที่สุด ระยะเวลาที่ User เข้ามาใช้งานเว็บไซต์ การคลิก Event และ Conversion ต่างๆ ที่เรามีการ Track เอาไว้ ก็สามารถดูได้จากรายงานส่วนนี้

  1. Monetization

รายงานที่บอกเกี่ยวรายได้ที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์เช่น มีคนสั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ รายได้แต่ละวัน/เดือนรวมเท่าไหร่ เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีระบบ E-Commerce และบริการต่างๆ ที่มีการชำระเงินบนหน้าเว็บไซต์

  1. Retention

เป็นรายงานที่บอกเกี่ยวกับ Returning Visitor คนที่เคยใช้งานเว็บไซต์ หรือลูกค้าเก่า มีการกลับมาใช้งานเว็บไซต์ของเราอีกครั้งมากน้อยแค่ไหน หากเรามี Returning Visitor ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องก็หมายความว่าเราสามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ได้มั่นคง แต่ถ้าหากจำนวนลดลงก็อาจหมายถึงว่า คุณภาพของบริการ หรือความใส่ใจลูกค้าเก่าของเราลดลงได้เช่นกัน

  1. Demographic

รายงานที่ให้เรารู้ข้อมูลพื้นฐานของผู้ใช้เว็บไซต์เช่น เพศ ชาย,หญิง อายุเท่าไหร่ เข้าใช้งานเว็บไซต์จากที่ไหนประเทศ หรือจากหวัดอะไร ช่วยให้เรารู้จักลูกค้า หรือคนที่สนใจธุรกิจของเรามากยิ่งขึ้น

  1. Tech

ให้เรารู้ว่าเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ User ใช้เข้าเว็บไซต์คืออะไร เป็น PC หรือ Mobile Browser เป็น Google Chrome หรือ Firefox ซึ่งข้อมูลส่วนนี้มักถูกใช้ตอนที่กำหนเกลุ่มเป้าหมายตอนยิงโฆษณาเพียงเท่านั้น

สรุป

ทั้งนี้ฟีเจอร์ที่เพิ่มมาให้ของ google analytics 4 สอนให้ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ของเรา เพื่อนำรายงานที่ได้ไปพัฒนาเว็บไซต์, แคมเปญ, หรือ Content Marketing มุมอื่น ๆ เพิ่มเติม ให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ตามข้อมูลที่ได้รับรายงานจาก GA โดยตรง ถือว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมอย่างมากกับทุกธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพื่อให้อนาคตต่อจากนี้มีโอกาสเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม

ทำไมต้องเรียนคอร์ส Youtuber?

คอร์ส youtuber
 

ในยุคดิจิทัลปัจจุบันยูทูปเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการสร้างรายได้และแชร์ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการทำวิดีโอเพื่อความบันเทิง การแบ่งปันความรู้ หรือการโปรโมตสินค้า คอร์ส Youtuber จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเส้นทางการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์มืออาชีพ เพื่อช่วยเข้าใจการหลักการทำงานและมีความคล่องในการใช้เครื่องมือมากขึ้น

 

ทำไมต้องเรียนคอร์ส Youtuber?

การเป็นยูทูปเบอร์ที่ประสบความสำเร็จไม่ได้หมายถึงแค่การอัปโหลดวิดีโอ แต่ยังรวมถึงการเรียนรู้ทักษะต่างๆ เช่น การวางแผนเนื้อหา การตัดต่อวิดีโอ การทำการตลาด และการเข้าใจกลยุทธ์เพื่อดึงดูดผู้ชม คอร์ส Youtuber จะทำให้เราสามารถสร้างช่องและมีแนวคิดหรือไอเดียใหม่ๆ รวมทั้งรู้จักเครื่องมือที่ชำนาญมากขึ้น

เข้าใจพื้นฐานของการสร้างเนื้อหา: ตั้งแต่การคิดไอเดียไปจนถึงการผลิตวิดีโอ

เพิ่มทักษะการตัดต่อวิดีโอ: เรียนรู้การใช้โปรแกรมตัดต่อยอดนิยม

สร้างแบรนด์ของตัวเอง: สร้างตัวตนที่โดดเด่นในโลกออนไลน์

เรียนรู้การสร้างรายได้: ทั้งจากยูทูปแอด การสปอนเซอร์ หรือการขายสินค้า

 

เนื้อหาที่น่าสนใจในคอร์ส Youtuber

  1. การวางแผนและสร้างเนื้อหา

  • การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
  • การคิดหัวข้อและไอเดียที่ดึงดูดผู้ชม
  • การเขียนสคริปต์สำหรับวิดีโอ

 

  1. การถ่ายทำวิดีโออย่างมืออาชีพ

  • การใช้อุปกรณ์ถ่ายทำ เช่น กล้อง ไมโครโฟน แสง
  • การจัดองค์ประกอบภาพและการใช้มุมกล้อง
  • เทคนิคการถ่ายทำด้วยสมาร์ทโฟน

 

  1. การตัดต่อวิดีโอ

  • การใช้โปรแกรมตัดต่อยอดนิยม เช่น Adobe Premiere Pro, Final Cut Pro, หรือ CapCut
  • การใส่เอฟเฟกต์ เสียงประกอบ และซับไตเติล
  • การสร้างอินโทรและเอาท์โทรที่โดดเด่น

 

  1. การทำการตลาดและการโปรโมตช่อง

  • การตั้งชื่อช่องและออกแบบโลโก้
  • เทคนิคการทำ SEO สำหรับ YouTube
  • การใช้ Social Media เพื่อเพิ่มการเข้าถึง

 

  1. การสร้างรายได้จาก YouTube

  • การเข้าร่วม YouTube Partner Program
  • การจัดการโฆษณา (YouTube Ads)
  • การหา Sponsorship และ Affiliate Marketing

 

ข้อสรุป

การเป็น Youtuber อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้และฝึกฝนจนเกิดความเข้าใจและชำนาญ คุณสามารถสร้างช่องทางของตัวเองให้เติบโตได้ การเข้าร่วมคอร์ส Youtuber จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า