วัคซีนมะเร็งปากมดลูกคืออะไร
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก คือวัคซีนที่ใช้สำหรับ ป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ และเป็นสาเหตุหลักของ มะเร็งปากมดลูก ในผู้หญิง ในความเป็นจริง ไวรัส HPV มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมากที่สุดคือสายพันธุ์ HPV 16 และ 18 โดยคิดเป็นกว่า 70% ของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกทั่วโลก ซึ่งวัคซีนมะเร็งปากมดลูก คือ วัคซีนที่ช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่เป็นอันตราย ลดโอกาสในการเกิดมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัคซีน HPV มีกี่ชนิด
- Cervarix
ป้องกัน HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 เหมาะสำหรับป้องกันมะเร็งปากมดลูกโดยเฉพาะ
- Gardasil
ป้องกันสายพันธุ์ 6 11 16 และ 18 เพิ่มการป้องกันหูดหงอนไก่ด้วย
- Gardasil 9
ป้องกันได้ถึง 9 สายพันธุ์ รวมถึง 16 18 31 33 45 52 58 ถือเป็นวัคซีนที่ครอบคลุมและป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ดีที่สุดในปัจจุบัน
วัคซีน มะเร็งปากมดลูก ต้องฉีดกี่เข็ม
ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ฉีดดังนี้
- อายุ 9–14 ปี หรือ ผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ควรฉีด ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6 – 12 เดือน
- อายุ 15 ปีขึ้นไป หรือ ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรฉีด 3 เข็ม และฉีดดังนี้ เข็มที่ 1: วันเริ่มต้น เข็มที่ 2 ตั้งแต่ 1–2 เดือนหลังเข็มแรก และเข็มที่ 3 ตั้งแต่ 6 เดือนหลังเข็มแรก
ทำไมวัคซีนมะเร็งปากมดลูกจึงสำคัญ
- เพราะป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่า 90% เพราะผู้หญิงที่ได้รับวัคซีนมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะหากฉีดตั้งแต่อายุยังน้อย และยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
- ช่วยลดอัตราการติดเชื้อ HPV แม้จะไม่สามารถป้องกันเชื้อได้ทุกสายพันธุ์ แต่การได้รับวัคซีนช่วยลดการติดเชื้อ HPV ที่เสี่ยงสูงได้อย่างมีนัยสำคัญ
- ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เพราะการรักษามะเร็งปากมดลูกมีค่าใช้จ่ายสูง และอาจกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การป้องกันตั้งแต่ต้นจึงคุ้มค่าทั้งในแง่เศรษฐกิจและสุขภาพจิต
ความเข้าที่มักมีเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูก
- เมื่อฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกแล้วจะไม่ตรวจคัดกรองอีก ไม่จริงเลย เพราะแม้จะได้รับวัคซีนแล้ว แต่ยังควรเข้ารับการ ตรวจแปปสเมียร์ (Pap smear) หรือ HPV DNA test อย่างสม่ำเสมอ เพราะวัคซีนไม่ครอบคลุมเชื้อ HPV ทุกสายพันธุ์
- ฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกตอนโตแล้วจะไม่เห็นผล ไม่จริงอีกเช่นกัน เพราะถึงแม้จะฉีดในวัยผู้ใหญ่ ก็ยังสามารถลดความเสี่ยงได้ แม้ประสิทธิภาพอาจไม่เท่ากับการฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์
- เมื่อฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกแล้วจะทำให้มีบุตรยาก เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดที่ชี้ว่าวัคซีนมะเร็งปากมดลูกมีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์
สรุป
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก คือ วัคซีนที่ช่วยให้คุณผู้หญิงลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก และยังช่วยสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย และคุณผู้หญิงควรฉีดทุกวัยตั้งแต่อายุ 9 ไปขึ้นไป ควรฉีดให้ตรงกับช่วงอายุและจำนวนเข็มที่เหมาะสมเพื่อได้ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกได้มากที่สุด